"ฝายดักขยะวัดคลองแห"
"ฝายดักขยะวัดคลองแห"
ราวปี 2548 ผม พี่ดุก จ่าคม ร่วมกับกลุ่มรักษ์คลองแห ได้ทดลองสร้างฝายเพือดักขยะจากเมืองหาดใหญ่ ที่มาในพื่้นที่ ขยะจำนวนมากโดยเฉพาะหน้าฝนมีทั้งพลาสติก กระดาษ ฟูกนอน ทีวี. สาระพัดไหลมากับสายน้ำ สร้างปัญหากระทบกันโดยแทบจะไม่มีใครมาแก้ไข
ฝายรอบแรกทำด้วยไม้ ไม่ประสบความสำเร็จ พังไปกับความแรงของน้ำและขยะที่อัดแน่น ต่อมาทำเป็นฝายหัวเฉียง ใช้เสาเข็มวางเพื่อความแข็งแรง แต่ก็ไม่อาจทานความแรงของน้ำได้อีก...เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวัฒนธรรมพื้นบ้านประสานวัดฯ เป็นแหล่งที่ทำทั้งมิติศาสนา สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
ปี 2550 เราได้การสนับสนุนจากมูลนิธิโคคาโคลา 1 ล้านบาทผมเขียนโครงการจัดทำฝายดักขยะถาวร โดยมีพี่เจี๊ยบช่วยประสานหาทีมอาจารย์และช่างมาเขียนแบบ ปรับประยุกต์จากฝายที่อื่นมาทำเป็นฝายถาวร โดยมีพี่ดม-อุดมทหารผ่านศึกเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก ภายใต้แนวคิดทำเป็นตะแกรงให้น้ำผ่านได้ ดักแต่ขยะ แล้วมีชุดตักนำขยะมากองไว้ให้กองช่างจากหาดใหญ่และคลองแหนำไปทิ้ง หน้าฝนก็ยกให้น้ำและขยะไหลผ่าน ไม่ต้านแรงน้ำ ทำให้สามารถใช้งานได้มาจนถึงทุกวันนี้
ปัญหาของเมืองที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ได้เลือกเฉพาะเขตพื้นที่ปกครอง ยังมีช่องว่างอยู่เสมอ ปัจจุบันทน.หาดใหญ่ได้ส่งรถแมคโครมาช่วยตักขยะที่ฝายได้ดักไว้ เป็นอีกพัฒนาการ ขยะที่ได้ช่วยทำให้ตลาดน้ำคลองแหสามารถทำกิจกรรมการขายได้อย่างสบายใจ ส่วนปัญหาน้ำเสียคงจะเป็นเรื่องต้องแก้ไขต่อไป
https://www.facebook.com/watch/?v=1176030719156751
Relate topics
- ร่วมคิดร่วมแก้ปัญหาชุมชนริมรางเมืองพะตง
- ประชุมเกษตรกรเครือข่าย "การจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค การเกษตรและการสร้างความมั่นคงทางอาหารลุ่มน้ำคลองต่ำ คลองวาด" ทม.ทุ่งตำเสา
- "นำร่อง sandbox การพัฒนาระบบคัดกรองสุขภาวะ 4 มิติ ที่ชุมชนแหลมสนอ่อน"
- "ประชุมทีมทำแผนรองรับสังคมสูงวัย ชุมชนย่านเมืองเก่า ทน.สงขลา"
- ประชุมทีมทำแผนรองรับสังคมสูงวัย ชุมชนเขตเศรษฐกิจ ทม.ปาดังเบซาร์
- "ประชุมทีมทำแผนรองรับสังคมสูงวัย ชุมชนบ้านเพนียด อบต.แค"
- โรงเรียน "หมอพืชชุมชน พะตงบ้านฉัน" เตรียมพร้อมรับมือโลกเดือด
- "ระบบข้อมูลกลาง(สงขลา)ระยะที่ 3"
- คณะทำงาน SUCCESS เมืองควนลัง หารือความร่วมมือร่วมกับศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้
- ประชุมเชิงปฏิบัติการ “เมือง (ไม่) รู้ร้อนรู้หนาว ภาคใต้เพื่อเตรียมความพร้อมของชุมชนเมืองต่อภาวะโลกเดือด”